การที่คนเรามีอารมณ์เป็นตัวกระตุ้นการกระทำนั้นไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เนื้อหาที่กระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์นั้นจะถูกแบ่งปัน แสดงความคิดเห็น และกระจายไปในวงกว้างในอินเทอร์เน็ตในอัตราที่สูงกว่าเนื้อหาที่ไม่มีการกระตุ้น เช่นเดียวกับโฆษณา โดยเฉพาะโฆษณาแบบเนทีฟ อารมณ์จะกระตุ้นการคลิกและส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของแคมเปญการตลาดที่ซับซ้อน ในขณะที่เรามักจะถือว่าอารมณ์ส่วนใหญ่อาจมีผลในทางบวกหรือทางลบ การวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการปลุกเร้าทางจิตวิทยานั้นจะช่วยเพิ่มมิติให้กับการรับรู้เนื้อหาของเรา

มาร่วมสำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างอารมณ์ ประสิทธิภาพ และการคลิกกับเรา โดยการทำความเข้าใจกับอารมณ์ที่อยู่ในโฆษณาของคุณให้ดียิ่งขึ้น แล้วคุณจะสามารถเพิ่มจำนวนคลิกและสร้างความทรงจำที่ตราตรึงอยู่ในใจของผู้ชมได้

การปลุกเร้าทางจิตวิทยาทำให้ผู้ใช้มีอารมณ์ร่วม

อารมณ์ร่วม กล่าวคือ ไม่ว่าอารมณ์จะเป็นบวกหรือลบก็ตาม อารมณ์จะถูกใช้เป็นตัวชี้วัดและเป็นตัวทำนายหลักของการเข้าชมเนื้อหา กระบวนการคิดแบบนี้มักจะไม่เป็นที่นิยม นักการตลาดจะหลีกเลี่ยงการใช้ภาพหรือข้อความที่อาจสร้างความสัมพันธ์เชิงลบกับแบรนด์ นั่นคือก่อนที่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ครั้งสำคัญจะอธิบายพลังของการปลุกเร้าทางจิตวิทยาให้กับเรา

ในหนังสือที่ชื่อว่า “Contagious: Why Things Catch On” ของผู้เขียน Jonah Berger ได้กล่าวไว้ว่าการปลุกเร้าแสดงถึงความพร้อมของเราที่จะดำเนินการ เป็นผลพลอยได้จากวิวัฒนาการที่ช่วยให้บรรพบุรุษของเราอยู่รอดเมื่อต้องเผชิญกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตหรือความตาย ในขณะที่เราไม่ต้องออกล่าหาอาหารหรือหนีจากผู้ล่าอีกต่อไป แต่การปลุกเร้าทางจิตใจยังคงเป็นตัวกำหนดว่าเรามีความพร้อมที่จะดำเนินการขนาดไหน

Berger จำแนกความแตกต่างระหว่างการปลุกเร้าเป็นระดับสูงและต่ำ ความโกรธ ความตื่นเต้น อารมณ์ขัน หรือความวิตกกังวลล้วนเป็นตัวอย่างของปลุกเร้าระดับสูง สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้เราทำการดำเนินการบางอย่างเพื่อตอบสนองต่ออารมณ์เหล่านั้น ต่างจากอารมณ์ที่เป็นการปลุกเร้าระดับต่ำ เช่น ความเศร้าหรือความพอใจ ซึ่งทำให้เราไม่อยากดำเนินการใด ๆ ต่อเลย

อย่างที่คุณสังเกตเห็น อารมณ์การปลุกเร้าระดับสูงอาจเป็นได้ทั้งทางบวกและทางลบ ความโกรธสร้างความตื่นตัวมากพอ ๆ กับความตื่นเต้น และอารมณ์ทั้งสองนี้จะบังคับให้เราลงมือดำเนินการมากกว่าที่จะอยู่เฉยและไม่สนใจ อารมณ์ร่วมมีความสำคัญแต่ไม่มากเท่ากับการปลุกเร้า

อย่างไรก็ตาม ศาสตร์แห่งอารมณ์ยังไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ไม่นานมานี้ การครอบงำได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ปลุกเร้าอารมณ์ร่วม การครอบงำหมายถึงการควบคุมที่เรามีเมื่อประสบกับอารมณ์บางอย่าง ความกลัวเป็นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการครอบงำที่ต่ำ ในขณะที่ความโกรธทำให้เกิดการครอบงำที่สูง

เมื่อคุณรวมอารมณ์ร่วม การปลุกเร้า และการครอบงำเข้ามาไว้ด้วยกัน คุณจะสามารถคาดการณ์ได้อย่างปลอดภัยว่าผู้ใช้จะตอบสนองต่อเนื้อหาหรือโฆษณาของคุณอย่างไร คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจทำลายแคมเปญโฆษณาได้ เช่น ความกลัวและความเศร้า การผสมผสานของอารมณ์ที่มีระดับของการปลุกเร้าและการครอบงำที่ต่ำนั้นจะไม่ได้ผล

การค้นหาอารมณ์ที่ผสมผสานกับกลุ่มเป้าหมายอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณได้ แต่จะเริ่มต้นที่ไหนดีล่ะ

โฆษณาแบบเนทีฟที่กระตุ้นอารมณ์ที่ใช่

โชคดีที่ผู้เผยแพร่โฆษณาได้มีการทดลองเนื้อหาและอารมณ์แล้ว และพวกเขาก็ได้ข้อสรุปที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์สำหรับโฆษณาแบบเนทีฟเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือ บทความที่มีการปลุกเร้าระดับสูงแต่มีอารมณ์ครอบงำระดับต่ำ มีแนวโน้มที่จะจุดประกายการสนทนา ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในวาทกรรมมากขึ้น บทความเกี่ยวกับนโยบายในสถานที่ทำงานที่น่าสยดสยองของ Amazon เช่น ทำตามนโยบายนั้น พวกเขาสร้างความโกรธเคืองต่อสถานการณ์ที่ผู้คนสามารถควบคุมได้เพียงเล็กน้อยหรือไม่สามารถควบคุมได้เลย

อย่างไรก็ตาม บทความที่ได้รับการแบ่งปันจะมีการปลุกเร้าในระดับสูง บทความที่สร้างอารมณ์ครอบงำ จะสร้างแรงบันดาลใจและความน่าตื่นเต้นที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าพวกเขาสามารถควบคุมได้ จะได้รับการแบ่งปันมากกว่าคนอื่น ๆ บทความต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกดีหรือเต็มไปด้วยคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจจะถูกแบ่งปันอยู่เสมอ

แม้ว่าการครอบงำจะมีบทบาทในการรับรู้เนื้อหาโดยรวม การปลุกเร้าทางจิตวิทยายังคงเป็นตัวชี้วัดที่แพร่หลาย การปลุกเร้าระดับสูงสามารถกระตุ้นการคลิกได้แม้จะมาพร้อมกับอารมณ์ที่มีการครอบงำต่ำ และไม่สามารถเป็นในทางกลับกันได้ นั่นควรเป็นปัจจัยในการตัดสินใจหลักของคุณเมื่อคุณทำการออกแบบโฆษณาเนทีฟ

โฆษณาแบบเนทีฟที่ใช้การปลุกเร้าทางจิตวิทยาให้เกิดประโยชน์จะประสบความสำเร็จมากกว่าโฆษณาที่ไม่ได้มีการกระตุ้นให้ดำเนินการใด ๆ

คุณสามารถใช้อารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความโกรธ ความตื่นเต้น ความขยะแขยง และความวิตกกังวล เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการได้ โฆษณาแบบเนทีฟที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังจะได้รับความสนใจจะกระตุ้นให้เกิดการคลิกมากกว่าโฆษณาที่ไม่ก่อให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์

อารมณ์ขันและความสนุกสนาน เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเสมอ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำให้ผู้ชมเป้าหมายหัวเราะคิกคัก!

คุณแทบจะได้ยินเสียงกรามหักในโฆษณาที่มีนักสเก็ตล้ม! การกระตุ้นทางอารมณ์ในลักษณะนี้คือหัวใจสำคัญของการปลุกเร้าทางจิตวิทยาและการโฆษณาแบบเนทีฟ

สรุป

การปลุกเร้าระดับสูงนั้นมีความสำคัญมากกว่าอารมณ์ร่วมและการครอบงำ การแสดงภาพและการใช้ข้อความที่กระตุ้นอารมณ์ทางจิตใจจะทำให้โฆษณาเนทีฟของคุณมีความได้เปรียบเหนือโฆษณาที่ไม่ดึงดูดอารมณ์ของผู้ชม ใช้การค้นพบทางวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ของตัวคุณแล้วแคมเปญโฆษณาเนทีฟของคุณจะประสบความสำเร็จ